ออสโซ บูโกชุดทางอิตาเลียนที่หอมหวานและนุ่มนิ่ม
ออสโซ บูโกคืออาหารจานดั้งเดิมของอิตาลีที่ประกอบด้วยเนื้อลูกวัวที่ถูกทอดช้าๆ จนจืดลามลิมและมีรสชาติอร่อยอันแสนว้าว ชื่อ “ออสโซ บูโก” แปลว่า “กระดูกกับรู” ที่นี้หมายถึงกระดูกที่เต็มไปด้วยไข่มาร็องซึ่งอยู่ตรงใจกลางของเนื้อลูกวัว เพิ่มรสชาติเข้มข้นให้กับอาหารนี้ ลักษณะการเสริฟ์ทั่วไปรวมถึงกรมอลากสุกและนำมาเติมด้วยริซอตโต้หรือพาลีนตา อาหารนี้เหมาะสำหรับงานพิเศษหรืออาหารถึงกับบ้าบอที่บ้าน
ส่วนผสม:
– 4 เนื้อลูกวัวขนาด 2 นิ้ว
– เกลือและพริกไทยตามชอบ
– 1/2 ถ้วย แป้งสาลี
– 1/4 ถ้วย น้ำมันมะกอก
– 1 หัวหอม หั่นละเอียด
– 2 แครอท หั่นเป็นท่อนเล็กๆ
– 2 ลูกลาบ หั่นเป็นท่อนเล็กๆ
– 4 กระเทียมสับ
– 1 ถ้วย ไวน์ขาวแห้ง
– 1 ถ้วย น้ำซุปเนื้อวัว
– 1 กระป๋อง (14.5 ออนซ์) มะเขือเทศสับ
– 1 ช้อนชา ตราแซดไทม์
– 1 ช้อนชา ดรายโรสแมรี
– 2 ใบใบ bay
– ผิวหน้ามะนาว 1 ลูก
– 2 ช้อนโต๊ะ ผักชีสับ
คำสั่ง:
###1. เตรียมเนื้อลูกวัว###
1. **เปิดเตาอบ** ที่อุณหภูมิ 325 องศาฟาเรนไฮต์ (165 องศาเซลเซียส)
2. **ปรุง** เนื้อลูกวัวด้วยเกลือและพริกไทยอย่างแข็ง
3. **หาด** แต่ละลูกกาสในแป้งสาลี โยกวิถีเอาส่วนเกินออก
###2. ทอดเนื้อลูกวัว###
4. **ใส่** น้ำมันมะกอกลงในหม้อหรือไดฉันที่มีความสามารถทนความร้อนในเตาอบ
5. **ทอด** เนื้อลูกวัวทีละชุด ทอดกรอบทั้งสองด้าน นำออกวางไว้บนจาน
###3. เตรียมวัสดุพืช###
6. **เพิ่ม** หอม แครอท และลาบที่สับลงในหม้อเดียวกัน ผัดจนพืชเริ่มเข้าหุ้ม ประมาณ 5-7 นาที
7. **เพิ่ม** กระเทียมสับ แล้วต้มอีกหนึ่งนาทีจนหอม
###4. Deglaze และก่อสร้างซอส###
8. **ประแสร์** ไวน์ขาวลงในหม้อเพื่อทำให้ละลาย เละตัดขอบกระดไวมเด่นด้วยไม้พาย
9. **เติม** น้ำซุปเนื้อวัว มะเขือเทศสับ ตราแซดไทม์ ดรายโรสแมรี และใบบาย เย็นผสดและตบเบา
###5. ตุกเนื้อลูกวัว###
10. **นำ** เนื้อลูกวัวใส่ลงในหม้อ ตกเนื้อลงในซอสเพื่อช่วยให้ผลิงลงไม่ครบหุ่ย
11. **ปิด**หม้อ แล้วนำไปเอาใส่เตาอบที่ได้ทำความร้อนไว้แล้ว
12. **ตุก** เนื้อลูกวัวประมาณ 2 ถึง 2.5 ชม. หรือจนเนื้อรวบโยกดียิ้นหน้า
###6. ซีอะบัดึงเชส###
13. **เอา**หม้อออกจากเตาอบ ทิ้นใบ bay ออก
14. **โรย**ผิวหน้ามะนาวและผักชีลงไปโดยที่ก่อนจะของ
###7. เสิร์ฟ###
15. **เสิร์ฟ** ออสโซ บูโกอุ่นๆ ที่ข้างข้อความกับริซอตโต้ พาลีนตา หรือม่าช์โพเทโท เชิญชิมรสชาติอร่อยอันเป็นเอกไปกแล่วในอาหารจานดั้งเดิมของอิตาลี!
The source of the article is from the blog hashtagsroom.com