Lobster Fra Diavolo: A Spicy and Sophisticated Seafood Delight

ลอบสเตอร์ ฟรา ดิอาโวโล: การเติมไตร่โอลส์และทะลายทะลายความอร่อยของอาหารทะเล

ลอบสเตอร์ ฟรา ดิอาโวโลเป็นเมนูคลาสสิค ของอิตาเลียน-อเมริกันซึ่งผสมผสานรสชาติของซีฟู้ดที่หวานหวานของลอบสเตอร์สดรสเปรี้ยวปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศทีงี้ดำเผ็ด ซอสที่หรูหราและอร่อยนี้เหมาะสำหรับวันพิเศษหรืออาหารว่างสำหรับการสองฝ่ายที่บ้าน เข้ากับเนื้อลอบสเตอร์นุ่มนวลกับซอสมะเขือเทศและกระเทียมเผ็ดและปกติจะรับประทานพร้อมกับพาสต้า

ส่วนประกอบ:
– ลอบสเตอร์สด 2 ตัว (ประมาณ 1 1/2 ปอนด์ต่อตัว)
– น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วย
– หอมใหญ่ 1 ลูก ซอยละเอียด
– กระเทียม 3 กลีบ แกะเป็นเนื้อบด
– พริกแดงบด 1/2 ช้อนชา (ปรับตามชอบ)
– น้ำองุ่นสีขาว 1/2 ถ้วย
– กระป๋อง (28 oz) มะเขือเทศสด เขี่ยเป็นชิ้นโดยใช้มือหรือส้อม
– ออเรกาโน้ 1 ช้อนชา
– ใบโหระพาสดสด 1 ช้อนโตะ สับ
– เกลือและพริกไทย
– ลิงกวินหรือสปาเก็ตตี้ 3/4 ปอนด์
– ผักชีสดสับ (สำหรับตกแต่ง)

ขั้นตอน:
1. **เตรียมลอบสเตอร์:**
– นำหม้อใหญ่น้ำตาลไปต้มชักโรง ลดลงมาแล้วทำไป ใส่ลอบสเตอร์ลงน้ำเดือดเวลาประมาณ 3 นาที ด้วยทองเหลือง ดึงลอบสเตอร์ออกมาใส่ลงในชามใหญ่ที่มีน้ำแข็งเพื่อหยุดกระบวนการการปรุงสุก หากลุกแล้ว ให้แตกเป็นชิ้นๆ โดยง่ายจากเถ้า มือ และหาง หั่นเนื้อเป็นชิ้นเล็ก เก็บเป็นเฉลี่ยสำหรับซอส

2. **ปรุงซอส:**
– ในกระทะขนาดใหญ่หรือกะทะลึก เอาน้ำมันมะกอก นำมาในอุ่น เมื่ออุ่นให้เอาเปลือกลอบสเตอร์ที่สำรับลงไป ผัดให้สะเหล่าจนเป็นกลิ่น เอาเปลือกลอบสเตอร์ออกจากกระทะ
– เพิ่มหอมใหญ่ลงไปในกระทะ ผัดจนเหลวเจิดประมาณ 5 นาที
– คนกระเทียมบดและพริกแดงและทอดประมาณ 1 นาทีจนมีกลิ่นหอม
– ใส่น้ำองุ่นลงไป เคี่ยประมาณ น้ำดำ ลอบสเขทา แตกประมาณ เกลือและพริกไทยตามชอบ
– ปรุงซอสตามเนื้อที่จะเข้มงวยด้วย

3. **ปรุงพาสต้า:**
– ในขณะที่ซอสต้ม ต้มน้ำใส่ปรุงด้วยเกลือและเนื้อทุกข์ไปแล้ว เติมแปรงซีนเข้าไปตามคำสั่งบนซองจากให้สุกลองน้ำย่อยแล้วเตกไว้

4. **จบจากร์กนี้:**
– เพิ่มเนื้อลอบสเตอร์ใส่ซอสมะเขือเทศและนำไปต้มตามปกติ เพื่อให้ร้อนให้สุกทั่วถึง
– โรยปาสต้าพาสต้าที่ต้มกับซอสไปสู่ที่ให้เข้าบริบูรณ์

5. **เสิร์ฟ:**
– หารางพาสต้าและนำลอบสเตอร์ใส่บนอาหารขนาด
– ตกให้มีผักชีสดข้สิดสตะและเสิร์ฟเดี๋ยวนี้

สนุกกับลอบสเตอร์ ฟรา ดิอาโโลของสุรินทร์ลองยิมี่ไว้สำรายด้วยเงินสวีทให้มุ้งชายำ

The source of the article is from the blog girabetim.com.br